สารคดีประวัติความเป็นมาของงาน Visual Effect หรือ VFX
งาน visual effect หรือ VFX นั้นอยู่คู่กับโลกภาพยนต์มาตั้งแต่เริ่มมีการสร้างภาพยนต์ออกมาไม่กี่เรื่องจนถึงปัจจุบัน จากการใช้วิธีเขียนภาพลงไปตรงๆ ในฟีล์ม หรือการซ้อนภาพด้วยกระจก และอีกมากมาย การทำอะไรแบบนี้ทั้งหมดนั้นก็เพื่อที่จะได้ภาพที่จะแสดงให้ผู้ชมเห็นออกมาทางจอภาพยนต์ได้อย่างสมจริง สวยงามน่าเชื่อ และเพื่อสนองจินตนาการของนักเขียนนวนิยาย หรือผู้กำกับให้ออกมาเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ด้วยตาของเรา สารคดีฉบับนี้จะพาทุกคนย้อนไปดูจุดเริ่มแรกของการเกิดงาน VFX งานโลกมายาที่แท้จริงๆ ที่มนุษย์พยายามตบตาหลอกล่อดึงเราให้หลุดเข้าไปในโลกที่เราไม่รู้จักหรือไม่เคยสัมผัส มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับประวัติความเป็นมาของงานสาย Visual effect นั้นกล่าวกันว่าเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนยุค 60 เป็นต้นมา ซึ่งในสมัยนั้นเริ่มมีคนพยายามหาวิธีสร้างภาพมายาที่เคยอยู่ในจิตนาการของนักเขียนนวนิยาย หรือผู้กำกับ ได้แก่ เวทมนต์ หุ่นยนต์เดินได้ คนบินได้ และอีกมากมายในเรื่องราวของแฟนตาซี หรือ ไซไฟ ให้เป็นจริง แต่ภาพที่เห็นได้ชัดว่าเกิดงาน Visual effect ออกมาเป็นจริงเป็นจังก็ในยุค 60 นั่นเอง เมื่อมีคนพยายามนำเรื่องราวตำนานมาเล่าเป็นภาพยนต์อย่างเรื่อง Jason and the argonauts อภินิหารขนแกะทองคำ ในปี 1963 โดยมีฉากตัวละครในจิตนาการมากมายออกมาเดินผ่านจอภาพยนต์ทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกร่วมถึงเหตุการที่น่าเหลือเชื่อในแผ่นฟีล์ม ซึ่งเรื่องนี้จะใช้มากที่สุดเลยคือเท็คนิกstop motion ที่จะถ่ายภาพหุ่นที่ทำขึ้นเป็นตัวละครต่างๆ ทีละภาพ แล้วนำมาเรียงต่อกันอีกครั้งจนเป็นภาพเคลื่อนไหวหรือ animation โดย Ray Harryhausen ผู้จัดจ้านในงานด้าน Stop motion ในจอภาพยนต์ ต่อมาความชัดเจนก็มากขึ้นสำหรับการต้องมีตำแหน่งนัก Visual Effect เมื่อหนังเข้าสู่การเล่าเรื่องราวการท่องอวกาศอย่างเรื่อง 2001 : A Space Odyssey ได้มีการสร้างสรรฉากอลังการขึ้นมาในเวลานั้นมากมาย และเริ่มมีการนำเอาเท็กนิก Roroscopes ที่เขียนขึ้นมาด้วยมือ เพื่อรวมทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาในช็อตสุดท้ายอย่างสวยงามตระการตา และสร้างความหลงไหลให้ผู้คนมากมาย ซึ่งรวมถึงจอส ลูคัส ผู้สร้าง star wars ในยุคต่อมานั้นเอง และจนนำมาสู่จุดเริ่มต้นอุตสหกรรม Visual effect จนเป็นรูปธรรม ในยุคหลังมานี้ก็ได้เกิดมี Software ตัวช่วยที่มีความสามารถมากมายเกิดขึ้นมาให้เราได้ทำงานโดยไม่ต้องทำอะไรที่มันอันตรายอย่างการทำระเบิดและควันไฟ และความสามารถของ Software อื่นๆ อย่าง Crowd people หรือการสร้างคนและสัตว์จำนวนมากๆ ในคราวเดียว ถ้าแอดจำไม่ผิด เรื่องที่มีควันออกมาสวยงาม และสร้างฉากคนจำนวนมากๆ ด้วยการจำลองตัวละครหลายๆ พันคนในคอมพิวเตอร์โดยที่ไม่ต้องมาทำ Animation ทีละคนจนมือแทบหักหลังแทบโก่ง เป็นเรื่องต้นๆ ก็น่าจะเป็น The lord of the ring และความสามารถอื่นๆ อย่างการทำให้วัตถุแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างสมจริงด้วย Phys-x การสร้างการเคลื่อนที่ของอณุภาคเล็กๆ ที่มากมายอย่าง ทราย ดิน และหิมะด้วย Particles Simulation การจำลองสภาพท้องทะเลและพื้นน้ำที่มีทั้งฟองและหยดน้ำมากมายเมื่อคลื่นกระทบฝั่ง การจำลองแสงของผิวหนังของคนและสัตว์ การสร้างต้นไม่ใบหญ้าที่มากมายมหาศาลในป่าดงดิบในคราวเดียว การจำลองการไหลของน้ำและของเหลว และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดที่เล่ามานี้ก็เพื่อให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์เราที่ต้องการสร้างความสมจริงให้กับโลกมายา ต้องการทำให้ฉากที่เหนือจินตนาการ ที่เคยอยู่เพียงแค่ตัวหนังสือในนวนิยาย ให้ออกมาโลดแล่น และน่าน่าตื่นตาตื่นใจ น่าหลงไหล สำหรับในประเทศไทยเราก็ได้นำ Vusual effect มาใช้งานตั้งแต่ยุค 80 ซึ่งเรื่องแรกเลยที่เราน่าจะเคยได้ยินอย่าง กาเหว่าที่บางเพลง เป็นที่ฮือฮามากๆ ในประเทศไทย ที่ทำให้เกิดยานอวกาศบินเหนือท้องฟ้าประเทศไทยในคืนพระจันทร์เต็มดวง และการใช้ Morphing ทำให้นักแสดงมีหูยาว หรือกระพริบตาด้วยเปลือกตาล่าง งาน Visual Effect ในประเทศไทยเองนั้นถึงแม้จะไม่ได้มีหนังไทยมากมายที่ใช้ Visual Effect เป็นหลัก แต่ก็มีให้เห็นอยู่เหมือนกัน เพื่อช่วยเสริมให้ภาพ และเรื่องราวในหนังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่ด้วยความที่คนไทยมีความอดทน และสามารถทำงานที่มีรายเอียดสูงได้เป็นอย่างดี จึงเกิดเป็นบริษัทลูกจากต่างประเทศ และบริษัทต่างๆ เกิดขึ้นมากมายที่ทำงานให้กับการสร้างบางส่วน หรืองานทั้งหมดของแต่ละช็อตในหนังฟอร์มยัก เช่นการสร้าง Match moving ในตัวนักแสดง และการเคลื่อนไหวของกล้องที่เราได้ยินกันบ่อยคืองาน Camera tracking ที่ให้คอมพิวเตอร์เลียนแบบการเคลื่อนไหวของกล้องที่ถ่ายในฉากจริงๆ เพื่อทำให้ตัวละครหรือวัตถุที่เป็น Computer Graphic เข้าไปอยู่ในฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบ หรือการสร้าง Effect แสง สี วัตถุ และงานอีกมากมายที่เราทำป้อนให้กับหนังต่างชาติในลักษณะเป็น out source บริษัท visual Effect ในประเทศไทยที่ทำงานให้กับหนังดังต่างๆลายเรื่อง และรวมถึง Visual effect ในงานโฆษณา ขอบคุณข้อมูลโดย Matt Leonard จากเว็ป http://www.spherevfx.com http://www.spherevfx.com/the-history-of-computer-graphics-and-effects/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น